วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน สุดยอดของการพัฒนาสมอง

“การอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน สำคัญที่สุดต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็ก มากกว่าฐานะทางเศรษฐกิจและสถานภาพทางสังคม” นี่คือข้อสรุปจากผลการวิจัยเรื่องการอ่านของประเทศอังกฤษ งานวิจัยนี้นำไปสู่ข้อเสนอแนะว่า ขอให้ผู้ใหญ่ใช้เวลาเพียงวันละ ๒๐ นาทีร่วมกับเด็กๆ ในการอ่านเรื่องที่ทำให้เขาเพลิดเพลิน จะให้ผลดีในทุกๆ ด้าน และจะเป็นบ่อเกิดของการสร้างนิสัยรักการอ่านที่น่าอัศจรรย์
** บทความอ้างอิงจาก http://www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=63

เพราะเหตุใด การอ่านนั้นจึงต้องเป็นการอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน

        สมองจะทำงานได้ดีเมื่อเราอยู่ในภาวะที่ผ่อนคลายและไม่เครียด ปกติเมื่อสมองรับข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัส (ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย) ข้อมูลเหล่านั้นจะเข้าไปที่ก้านสมองก่อน จากนั้นจึงถูกส่งไปที่ธาลามัส (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองชั้นนอก) เพื่อแยกข้อมูลข่าวสาร ก่อนที่จะส่งไปส่วนอื่นๆ เช่นเมื่อเวลาเราอ่านหนังสือ ธาลามัสจะส่งข้อมูลไปยังเปลือกหุ้มสมองหรือซีรีบรัล คอร์เท็กซ์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเห็น  ซีรีบรัล คอร์เท็กจะแยกแยะว่าจะทำอย่างไรกับข้อมูล เก็บไว้ชั่วคราวหรือส่งต่อไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำถาวร การถ่ายทอดข้อมูลจะขึ้นอยู่กับภาวะอารมณ์ในขณะนั้นด้วย
       การอ่านนิทาน การ์ตูน หรือหนังสือที่เพลิดเพลินชวนติดตาม นอกจากสร้างความบันเทิงให้กับผู้อ่านแล้วยังเป็นตัวเชื่อมไปสู่การอ่าน หนังสือแนวอื่นๆ ในเวลาต่อไปด้วย
      ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาการของสมอง ได้เปิดมิติความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกที่เกิดขึ้นในสมอง ว่าการนำข้อมูลทุกชนิดเข้าสู่สมอง ถ้าผ่านอารมณ์ความรู้สึก ฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ซึ่งเป็นสมองส่วนความจำ  จะส่งความรู้ทั้งหมดเข้าสู่ระบบความจำถาวรของสมอง ถ้าไม่มีอารมณ์มากำกับการเรียนรู้ หรือไม่เกิดความรู้สึกร่วม สมองส่วนที่เรียกว่า  อมิกดาลา (amygdala)  ซึ่งเป็นส่วนที่ก่อให้เกิดอารมณ์ต่างๆ  ที่อยู่ใกล้กับฮิปโปแคมปัส  ก็จะไม่ส่งสัญญาณไปยังฮิปโปแคมปัส  แต่จะย้ายข้อมูลนี้ไปสู่หน่วยความจำชั่วคราว  ซึ่งมีระยะเวลาที่คงอยู่ในสมองประมาณ 7-8 นาที  จนถึง 3 วัน แล้วจึงถูกลบ หากข้อมูลนั้นน่าตื่นเต้น สนุก กระทบใจ อมิกดาลาจะส่งสัญญาณไปยังฮิปโปแคมปัสซึ่งจะแปลข้อมูลนี้ว่ามีความสำคัญ ฮิปโปแคมปัสก็จะส่งข้อมูลไปยังพื้นผิวสมองหรือคอร์เท็กซ์   ซึ่งเป็นสมองส่วนคิด และบันทึกเป็นความจำถาวร  กลายเป็นคลังข้อมูลในสมองต่อไป
     ด้วยหลักการทำงานของสมองดังกล่าว การเรียนรู้ที่ไม่ผ่านอารมณ์ ก็จะไม่ช่วยให้สมองเกิดการพัฒนาเท่าที่ควร
         การอ่านที่สร้างความพึงพอใจ ทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจ จะทำให้เด็กจดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้ได้นาน
        เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หากเราเอาอะไร”ดีๆ” ใส่เข้าไปในหนังสือสำหรับเด็กอย่างแยบยล เด็กๆจะเรียนรู้ได้น่าอัศจรรย์สักเพียงใด?
        และที่สำคัญก็คือ หลักการของ  emotional brain กล่าวคืออารมณ์ความรู้สึกมีบทบาทอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนการเรียนรู้ และยังมีความพิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ สมองของเรานั้นเรียนรู้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด (unlimited learning)                       
       ยิ่งเมื่อได้เรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลิน ก็ยิ่งรู้ว่าโลกแห่งการเรียนรู้นั้กว้างใหญ่ไพศาลขอบเขต หนังสือที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินจึงเป็นการเปิดประตูสูจักรวาลแห่งการ เรียนรู้ที่ไร้ขอบเขต

อ้างอิงจาก  http://www.bbl4kid.org/ourstory

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น